วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การศึกษา



คณะที่ใฝ่ฝัน..
คณะศึกษาศาสตร์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


Education KU (Faculty of )




ภาควิชาครุศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

1. จิตวิทยาทางการศึกษา
2. หลักสูตรการศึกษา
3. แนะแนวทางการศึกษา
4. การบริหารทางการศึกษา
5. การสอนคณิตศาสตร์
6. การสอนภาษาอังกฤษ
7. การสอนคอมพิวเตอร์ศึกษา
8. เทคโนโลยีทางการศึกษา



มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ บางเขน









มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดสอนทางด้านการเกษตร อันเป็นฐานรากของการดำรงชีวิตแบบไทยตั้งแต่อดีตกาล ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นเป็นอันดับที่สามของไทย โดยมีปณิธาณในการก่อตั้งเพื่อเป็นคุณประโยชน์แก่การกสิกรรมและการเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เริ่มต้นจากการเป็นโรงเรียนช่างไหมในปี พ.ศ. 2447 และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนการเพาะปลูก หลังจากนั้นรวมเข้ากับโรงเรียนแผนที่เป็นโรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการ มีผลให้วิทยาการทางการเกษตรพัฒนาและก้าวหน้า มีกิจกรรมและวิชาการต่างๆ ที่ดำเนินการเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนเสมอมา ใน พ.ศ. 2486 รัฐบาลในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีการปรับปรุงและรวมกิจการของวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขนกับโรงเรียนวนศาสตร์ (โรงเรียนการป่าไม้เดิม จังหวัดแพร่) มาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2486 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 โดยแรกเริ่ม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการเปิดสอนเฉพาะด้านเกษตรศาสตร์ ต่อมา ได้มีการขยายสาขาวิชาครอบคลุมทั้งด้าน สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ บริหารธุรกิจ และ ศิลปศาสตร์ ตามมาตรฐานของมหาวิทยาลัยสากลอย่างสมบูรณ์ พิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคม ในอดีตนิสิตที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากทุกวิทยาเขต



ชื่อและความหมาย






มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใช้คำว่า "เกษตรศาสตร์" เป็นชื่อภาษาไทยของมหาวิทยาลัย และใช้คำว่า "Kasetsart" ในภาษาอังกฤษ "เกษตรศาสตร์" มาจากคำว่า เกษตร (เขต หรือ แผ่นดิน) และ ศาสตร์ (ความรู้ หรือ การศึกษา) ซึ่งรวมกันมีความหมายโดยทั่วไปว่า การศึกษาเกี่ยวกับเขตและแผ่นดิน หรือ ศาสตร์แห่งแผ่นดิน คำนี้ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Agriculture แปลว่า การเพาะปลูกแบบรูปธรรม มีรากคำมาจากภาษาละตินคือคำว่า agrīcultūra : agrī หมายความถึงสิ่งที่เป็นรูปธรรม และคำว่า cultūra หมายความถึง วัฒนธรรม, สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือการเพาะปลูก คำว่า "เกษตร" อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยนั้น มีที่มาจากการที่กระทรวงเกษตราธิการต้องการจัดตั้งสถาบันการศึกษาวิชาการเกษตรอันเนื่องด้วยวิชาการผลิตและการค้า เพื่อผลิตคนเข้ารับราชการในกรมกองต่างๆ ของกระทรวงเป็นการเฉพาะ โดยคำว่า "เกษตร" นั้นถูกจารึกขึ้นในประวัติศาสตร์สยามครั้งแรกในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ในปี พ.ศ. 1893 ได้มีการจัดตั้งการปกครองแบบจตุสดมภ์ขึ้น คือ เวียง วัง คลัง นา ซึ่งตำแหน่งเสนาบดีกรมนาในขณะนั้นมีชื่อเรียกว่า "ขุนเกษตราธิบดี" มีอำนาจทั้งทางบริหารและอำนาจตุลาการใน"การจัดการเรื่องที่ดินและชลประทาน" เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์แก่ประชาชนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม การเลี้ยงชีพ การผลิตและการค้ากับนานาประเทศ ภายหลังจึงมีการเปลี่ยนชื่อกรมนา เป็นกระทรวงเกษตรพนิชการ, กระทรวงเกษตราธิการ, กระทรวงเกษตรพาณิชยการ, กระทรวงเศรษฐการ, กระทรวงเกษตราธิการ, กระทรวงเกษตร จนมาสู่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับส่วนคำว่าเกษตรตามความหมายพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้คำจำกัดความไว้ว่า เกษตร [กะเสด] น. ที่ดิน, ทุ่ง, นา, ไร่; ซึ่งความหมายในโบราณกาลว่า เขต, แดน (ในภาษาสันสกฤตจะใช้คำว่า เกฺษตฺร ส่วนภาษาบาลีจะใช้คำว่า เขตฺต). เช่นคำว่า พุทธเกษตร (พุทธ+เกษตร) แปลความหมายว่า ดินแดนแห่งพุทธ กษัตริย์ (เกษตร+ขัตติย) แปลความหมายว่า ผู้ปกครองแผ่นดิน ในระหว่าง พ.ศ. 2518 ได้มีการวิ่งเต้นขอให้เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง โดยอ้างเหตุผลนานัปการ ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมของชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีการแถลงข่าวโจมตีซึ่งกันและกัน ระหว่างฝ่ายที่อยากให้เปลี่ยนชื่อและไม่ประสงค์ให้เปลี่ยนชื่อ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้อนุญาตให้นิสิตหยุดเรียนครึ่งวันเพื่อจัดทำประชามติในเรื่องนี้ ภายหลังจึงมีการเห็นสมควรให้มีการใช้ชื่อ เกษตรศาสตร์ เป็นชื่อของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการระลึกและย้ำเตือนถึงศาสตร์อันเป็นรากฐานวัฒนธรรม ความรู้ และวิทยาการของแผ่นดินไทย จนกระทั่งปีพ.ศ. 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำรัสถึงความหมายของคำว่าเกษตรศาสตร์ตามชื่อของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไว้ว่า คำว่าเกษตรศาสตร์ อันเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยนี้นั้น ฟังดูมีความหมายจำกัดอยู่เพียงการทำนา แต่ความจริง เกษตรศาสตร์ ตามความหมายในปัจจุบัน กินความกว้างขวางมาก คือรวมเอาวิชาหรือศาสตร์ทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตจิตใจของมนุษย์เข้าไว้เกือบทั้งหมด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงสอนวิชาการสาขาต่าง ๆ มากมายหลายสาขา ทั้งฝ่ายวิทยาศาสตร์ ทั้งฝ่ายศิลปศาสตร์ เรียกได้ว่าครบถ้วนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยในความหมายสากลอย่างสมบูรณ์ คำ "เกษตรศาสตร์" ที่เป็นวิสามานยนามอันเป็นชื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้ อ่านว่า "กะ-เสด-สาด" แต่ในกรณีที่หมายถึงวิชาว่าด้วยการเกษตร คำนี้อ่านว่า "กะ-เสด-ตฺระ-สาด"




ตราประจำมหาวิทยาลัย




ตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 เล่มที่ 114 ตอนพิเศษ 104 ง [34] ตราประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง วงนอกสุดด้านบน มีข้อความว่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านล่างมีข้อความว่า พ.ศ. ๒๔๘๖ เป็นตัวอักษรไทย ข้อความทั้งสองคั่นด้วยตราประจำยาม 2 ลาย วงที่ 2 มีกลีบบัวหงายและบัวคว่ำ สลับซ้อนกันอย่างละ 24 กลีบ และวงในสุดมีองค์พระพิรุณทรงนาคอยู่กึ่งกลาง พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์แสงชัยพระหัตถ์ซ้ายปางประธานพร พระยานาคพ่นน้ำออกมา 3 สายและมีลายกนก 3 ลาย
ตราของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มี พ.ศ. ที่ก่อตั้งอยู่ในดวงตราด้วยเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ในประเทศไทย

เพลงประจำมหาวิทยาลัย

เพลงพระราชนิพนธ์ เกษตรศาสตร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2509 โดยโปรดเกล้าฯ ให้ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร แต่งคำร้องถวาย

สีประจำมหาวิทยาลัย
สีเขียวใบไม้

ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
"ต้นนนทรี" โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นนนทรี จำนวน 9 ต้น ณ บริเวณหน้าหอประชุม มก. เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506เวลา 15.30 น

วิทยาเขตบางเขน


เป็นวิทยาเขตหลัก ปัจจุบัน มีหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอน 15 คณะ 1 วิทยาลัย ได้แก่
คณะเกษตร
คณะบริหารธุรกิจ
คณะประมง
คณะมนุษยศาสตร์
คณะวนศาสตร์
คณะวิทยาศาสตร์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
คณะศึกษาศาสตร์
คณะเศรษฐศาสตร์
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
คณะสังคมศาสตร์
คณะสัตวแพทยศาสตร์
คณะอุตสาหกรรมเกษตร
คณะเทคนิคการสัตวแพทย์
บัณฑิตวิทยาลัย
วิทยาลัยสิ่งแวดล้อม



วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สิ่งที่ชื่นชม

บุคคลที่ประทับใจ






ประวัติ ดร.กษมา จาติกวณิช
ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมสามัญศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษา (กปช.) และตำแหน่งอื่นๆ อีกหลายตำแหน่งในกระทรวงศึกษาธิการ
ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา (กษมา จาติกวณิช) เกิดวันที่
26 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของ ศาสตราจารย์นายแพทย์กษาน จาติกวณิช















ประวัติการศึกษา
- ระดับประถมศึกษา
โรงเรียนอาชีวะศิลป์
- ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
- ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย Prior's Field School
ประเทศอังกฤษ
- ระดับปริญญาตรี Social Relations (Cum Laude)
มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด (Harvard University) ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ระดับปริญญาโท ทางครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ระดับปริญญาเอก สาขา Educational Planning (วางแผนการศึกษา)
มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 40 (วปรอ. 4010)
















ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมสามัญศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษา (กปช.) และตำแหน่งอื่นๆ อีกหลายตำแหน่งในกระทรวงศึกษาธิการ
ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา (กษมา จาติกวณิช) เกิดวันที่
26 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของ ศาสตราจารย์นายแพทย์กษาน จาติกวณิช อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชและอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กับ ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวณิช นายกสมาคมติดตามการพัฒนาสตรีไทย เป็นหลานปู่ของ พลโท พระยาอธิกรณ์ประกาศ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ชื่อ "กษมา" หมายถึง ความอดทน อดกลั้น เป็นชื่อที่คุณปู่ตั้งให้ เพื่อให้หลานสาวมีชื่อคล้ายๆ กับบุตรชายของท่าน คือ กษม กษาน และเกษม
นางสาวกษมา จาติกวณิช สมรสกับรองศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์ชาญวุฒิ วรวรรณ โอรสในหม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ และหม่อมจิตรา วรวรรณ ณ อยุธยา (พี่สาวของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี) มีบุตรด้วยกันคือ หม่อมหลวงวรุตม์ วรวรรณ







ดร.คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา นับได้ว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในวงการการศึกษาของไทยคนหนึ่ง เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในกระทรวงศึกษาธิการหลายตำแหน่ง อาทิ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการประถมศึกษา อธิบดีกรมสามัญศึกษา อธิบดีกรมการศึกษานอกโรงเรียน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ อธิบดีกรมวิชาการ ฯลฯ
เมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ที่ผ่านมาคุณหญิงกษมา ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยลาออกแบบไม่ขอเข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดเพื่อเปิดทางให้ผู้บริหารในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ขึ้นมาแทน ทั้งนี้คุณหญิงกษมา เกิดวันที่ 26 ตุลาคม 2492 และจะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีนี้ แต่เพราะเกิดหลัง 30 กันยายน จึงจะเกษียณอายุราชการในปี 2553
[1]


วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เรื่องแปลก

ฮือฮา! คุณแม่ชาวอียิปต์ คลอดแฝด 7










คุณแม่ชาวอียิปต์คลอดลูกแฝด 7 รวดเดียว โดยเป็นชาย 4 และหญิง 3 แพทย์สุดทึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม.ว่า นางกาซาลา คามิส หญิงชาวอียิปต์วัย 27 ปี ได้คลอดลูกแฝด 7 คน ที่โรงพยาบาลในเมืองอเล็กซานเดอร์ ประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นเด็กชาย 4 คน และเด็กหญิง 3 คน น้ำหนักตัวทั้งหมดตั้งแต่ ตั้งแต่ 3.2 ปอนด์ - 6.17 ปอนด์ โดยเด็กแฝดทั้ง 7 ถูกจับเข้าห้องอบอุณหภูมิ ขณะที่ นางกาซาลา มีอาการปลอดภัยดี ซึ่งเธอได้รับการถ่ายเลือดระหว่างรับการทำคลอดด้วยวิธีผ่าท้อง จากการตัดสินใจของแพทย์เนื่องจากเห็นว่าการตั้งครรภ์ของเธอกระทบต่อไต และมีขึ้นในขณะที่เธอตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนเต็ม ด้านนายแพทย์ อีมัด ดาร์วิช ผู้ทำการผ่าตัด ระบุว่า การคลอดแฝด 7 ครั้งนี้เป็นการเหตุการณ์คลอดเด็กที่แปลกและหายาก ซึ่งเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนเลยในรอบ 33 ปีที่ผ่านมา






หญิงชาวอียิปต์ในจังหวัดบีเฮียราที่คลอดลูกแฝดถึง 7 คน วอนผ่านสื่อขอความช่วยเหลือจากสังคมเพราะไม่มีเงินพอจะเลี้ยงดูลูกทั้งหมด ตอนนี้ในครอบครัวมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู 10 คน เพราะเดิมมีลูกสาวอยู่แล้ว 3 คน ขณะที่สามีมีรายได้เพียงวันละ 135 บาท






นางคามิสคลอดลูกแฝด 9 คน ด้วยการผ่าคลอดที่โรงพยาบาลในเมืองอเล็กซานเดรีย เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก แต่ทารกเสียชีวิตไป 2 คน เหลือ 7 คน เป็นเด็กชาย 4 คน เด็กหญิง 3 คน น้ำหนักระหว่าง 1.5-2 กิโลกรัม ขณะนี้ยังอยู่ในตู้อบ ทางรัฐบาลแจ้งว่าจะช่วยเหลือเป็นผ้าอ้อมและนมสำหรับทารก 7 คน ในช่วง 2 ปีแรก


นอกจากนี้จากข่าว www.buffalonews.comแจ้งว่า นางคามิสปรารถนาจะอุ้ม และให้นมลูกทั้ง 7 เพราะตอนนี้ได้เห็นลูก ผ่านทางทีวีเท่านั้นสามีและญาติๆของนางคามิสกำลังระดมสมองช่วยกันตั้งชื่อให้เด็กน้อยทั้ง 7 อยู่ขณะนี้ครอบครัวของนางคามิส อาศัยอยู่ที่เมืองบีฮีรา (Beheira)ซึ่งอยู่ตอนเหนือของที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ ในอียิปต์


_____________________________


ท่องเที่ยว


เที่ยวต่างประเทศ เมืองแปลก ที่ ซานฟรานซิสโก San Francisco USA ประเทศ อเมริกา เป็น " เมืองเอียง บ้านเรือน สร้างเอียง แปลกที่สุดในโลก"








คนยืนยังเอียงๆ ๆๆ





ตึก บ้าน และรถก็พลอยเอียงไปตามๆ ๆกัน





_____________________________



ชื่อเมืองที่แย่ทีสุดในโลก

Accident, Maryland, USA






เมือง"อุบัติเหตุ"นี้เป็นเมืองขนาดย่อมในรัฐแมรี่แลนด์ของอเมริกา มีคนอาศัยอยู่ราว 300-400 คน เป็นเมืองเก่าแก่ และเป็นหนึ่งในเมืองแรกๆของรัฐนี้เลยทีเดียว (อ่านเพิ่มเติมที่wiki) ที่มาของชื่อนั้นไม่ชัดเจนแต่ฟังดูไม่ค่อยปลอดภัยเลยนิ



No Name, Colorado, USA






"ไร้ชื่อ" เป็นชื่อเมืองๆหนึ่งในรัฐโคโลราโดของสหรัฐ ไม่รู้ว่าคนตั้งคิดอะไรไม่ออกแล้วหรืออย่างไร ถ้าจะไม่ตั้งก็ไม่ตั้งเลยอาจจะดีกว่า ฮ่า ฮ่า (wiki)



Boring, Oregon, USA





ท่าทางคนที่มีหน้าที่ตั้งชื่อเมืองในสหรัฐจะค่อนข้างเบื่อหน้าที่การงานจริงจริ๊ง ... ไม่ใช่นะ เมืองอุตสาหกรรมไม้ในโอเรกอนนี้ตั้งชื่อตามผู้ตั้งรกรากคนแรก W.H. Boring ในปี 1903 (wiki) ถึงแม้ชื่อจะประหลาดแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวเมืองส่วนใหญ่ (จริงเหรอเนี่ย?)



Toad Suck, Arkansas, USA



เมืองในรัฐอาคันซอของอเมริกาเมืองนี้ท่าทางจะเกลียดคางคกเอามากๆ ตามตำนานของเมืองเล่าว่าชื่อนี้มีที่มาจากคำสบถองผู้ตั้งรกรากรุ่นแรกๆ (อ่านได้ที่ wiki) เมืองนี้ยังเป็นต้นกำเนิดงานกุศล Toad Suck Daze ที่จัดเป็นประจำทุกปีอีกด้วย


Condom, Gres, France





เมืองในฝรั่งเศสเมืองนี้ไม่ได้หมายความว่า"ถุงยางอนามัย"อย่างที่ใช้ในภาษาอังกฤษ เพราะคำว่าถุงยางอนามัยนั้นในฝรั่งเศสจะใช้คำว่า preservatif (อ้างอิงจาก wiki)แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เมืองๆนี้ปลอดจากนักท่องเที่ยวที่สนใจในเมืองที่ชื่อประหลาดเมืองนี้

Embarrass, Minnesota, USA








เมืองที่(ไม่)"น่าอับอาย"ในรัฐมินนิสโซตาเมืองนี้เป็นเจ้าของสถิติอุณหภูมิต่ำที่สุดในอเมริกาที่ -57 องศาฟาเรนไฮส์ (ประมาณ -50 องศาเซลเซียส) ชื่อเมืองนี้ตั้งตามแม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง ซึ่งตามภาษาฝรั่งเศสแปลว่า"สะกัดกั้นด้วยสิ่งกีดขวาง" (wiki)... ก็ไม่ดีไปมากว่ากันเท่าไหร่นัก

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Meetting Dream





ประวัติส่วนตัว..











เฮลโลล! ชาว บล๊อกเกอร์
แนะนำตัวสักหน่อย..
ชื่อจริง:: นภัสภรณ์ นามสกุล ผ่องยุบล
ชื่อเล่น :: ดรีม ^^"
เกิดวันที่ ::5 กันยายน พ.ศ 2537 ปีจอ ราศีสิงห์ กรุ๊ป:: B
ปัจจุบันอายุ :: 15 ปี
ครอบครัว :: 4 คน เป็นบุตรคนที่2 มีพี่ชาย 1คน
ครอบครัวประกอบอาชีพ:: รับราชการ ,ธุรกิจส่วนตัว
บ้านเลขที่ :: 9/1 ม.4 ต. ตาลาน อ. ผักไห่ จ. พระนครศรีอยุธยา 13120







เพื่อนรู้ใจ:: อาแน๊คกี้ อาแนน(คุณพี่จอมครองโลก)อาโมโม่ & อาตุ๊กตา Speedboat อาแพรว ฯลฯ
วิชาที่ชอบ:: สังคม,ศิลปะ
วิชาที่ไม่ชอบ :: เศรษฐศาสตร์
อาจารย์ที่ชื่นชม :: อ. สุภา ผ่องยุบล
อาหารคาว :: ไข่ตุ๋น , เต้าหู้ผัดกุ๋ยช่ายขาว,ปลากระพงน้ำปลา
เพลงที่ชอบ :: เพลงไทย!!

ศิลปินที่ชื่นชอบ:: -



ซี่รี่ :: ฝันรัก..ปารีส (LOve is paris)
กิจกรรมยามว่าง:: เลี้ยงปลาสวยงาม
กีฬาที่ชอบ :: เทเบิลเทนนิส ,แบดมินตัน
นักกีฬาที่ชื่นชอบ :: Gilles Simon
การ์ตูนเรื่องโปรด :: Pokemon
การ์ตูนตัวโปรด :: Kabikon,Zenigame,Golonya
รถในอุดมคติ :: lexus
สีที่ชอบ :: ม่วง สีฟ้า สีเขียวอ่อน สีโทนอ่อน
ที่พักผ่อนหย่อนใจ :: ร้านอาหารทุกที่
ร้านอาหาร :: น้ำเคียงดิน , สีน้ำ
บุคคลต้นแบบ :: คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา

สิ่งที่อยากทำในวันข้างหน้า :: เรียนจบป.เอก
ความฝันอันสูงสุด :: การเป็นศาสตราจารย์
อนาคตอยากเป็น :: รับราชการ (ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา)